คีรีวงกำลังเป็นที่รู้จักของคอเที่ยวทั่วไทยครับ หมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางสายน้ำ ขุนเขา เป็นเมืองที่โรแมนติกมากแห่งหนึ่งที่ผมเคยไปเยือนมาครับ ผู้คนน่ารัก ธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ ทำเอาผมไม่อยากกลับกรุงเทพ ฯ ไปเจอรถติด ชีวิตวุ่นวาย ขอย้ายมาอยู่คีรีวงเลยได้ไหม ฮาาา
การเดินทางไปบ้านคีรีวงจากอำเภอเมือง ตามทางหลวงหมายเลข 4016 จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4015 บริเวณ กิโลเมตรที่ 9 เลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านคีรีวง เข้าไป 9 กิโลเมตร หรือขึ้นรถสองแถวจากตลาดยาว ในอำเภอเมือง มีรถออก ตั้งแต่เวลา 07.00-16.00 น. ราคา 20 บาท รถสองแถวที่นี่่ารักดีครับมีการรับฝากส่งเอาข้าวไปสีในตัวเมือง โดยคนฝากจะมายืนโบกรถแล้วยกข้าวขึ้นรถครับ เป็นบรรยากาศแบบพึ่งพาอาศัยกันเห็นแล้วยิ้มครับ เมื่อมาถึงหมู่บ้านหากต้องการเที่ยวชมหมู่บ้านสามารถเช่าจักรยานปั่นได้ โดยจุด เช่าจักรยานที่เป็น ที่นิยมคือ ที่ร้านกาแฟบ้านนายทั่ง ตั้งอยู่ใกล้กับสะพานคีรีวงครับ
ที่พักมีให้เลือกแบบรีสอร์ท และแบบโฮมสเตย์ครับ มาครั้งนี้อยากลองแบบแปลกแต่ชิลล์บ้าง เลยจองที่ซือวาน โฮมสเตย์ ราคาที่พักไม่แพง พร้อมการดูแลเหมือนเราเป็นลูกหลาน บริเวณบ้านเงียบสงบ อากาศดีมากครับ
อาชีพหลักของชาวคีรีวง คือการทำสวนผลไม้ผสม เรียกว่า “สวนสมรม” เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน สะตอ ชุมชนคีรีวง ได้เป็นชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ( Thailand Tourism Awards) ประจำปี 2541 ประเภทเมืองและชุมชนด้วยนะครับ เนื่องจาก เป็นชุมชนที่มี วิถีชีวิตแบบชาวสวนอยู่กับธรรมชาติ และได้พัฒนา การบริการนักท่องเที่ยวขึ้นมาเป็นธุรกิจใหม่ของชุมชน
การได้เดินทางมาพักผ่อนที่หมู่บ้านคีรีวงถือว่าคุ้มค่ามากครับ ใครมีเวลาวันสุดสัปดาห์ พาครอบครัวมาสูดอากาศบริสุทธิ์ ที่หมู่บ้านที่เขาบอกว่าอากาศดีที่สุดในประเทศไทย มาสัมผัสชีวิตแบบพื้นถิ่น กินอาหารอร่อย ๆ โดยเฉพาะน้ำดอกอัญชัญแก้วนี้ฮะ
ว้า หมดเวลาซะละ กลับกรุงเทพ ฯ ไปปั่นเงินมาเที่ยวต่อกัน
ทิ้งท้ายด้วยรูปนี้ครับ คีรีวงนะครับอย่าเพิ่งนึกว่าเมืองจีน ไปละ บ๊าย บาย
