มหานครปารีส
ครั้งแรกที่ได้ไปสัมผัสปารีส คือ เครื่องบินของสายการบิน AirFrance KLM ไม่พาไปยังจุดหมายปลายทาง ด้วยเหตุจากอากาศไม่เป็นใจ ลมแรงพัดแกว่งมากมายที่สนามบินปลายทางคือ Schiphol Amsterdam สนามบินแห่งนี้ถือว่าอยู่ต่ำที่สุดบนโลก โดยอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลอยู่ 3.4 เมตร (ในส่วนที่ต่ำที่สุด) โดยมีหอบังคับการการบินสูง 101 เมตร ซึ่งก็เป็นหอที่เตี้ยที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับสนามบินกันเองเช่นกัน เมื่อเครื่องบินไม่บิน พนักงานสายการบินจึงจัดแจงที่หลับที่นอนพร้อมอาหารให้ผู้โดยสารที่ตกค้างและยินดีที่จะรับข้อเสนอของสายการบิน นอกเสียจากว่าเร่งรีบและอยากกลับบ้าน ก็สามารถลากกระเป๋าไปขึ้นรถไฟทามกลางความหนาวเหน็บ แต่แอดไม่กล้าคะ เพราะมันมืดและเราไม่ได้แลกเงินยูโรมาติดตัวเลย เพราะคิดไว้ว่าเส้นทางจะสวยงาม บินมาถึงปารีสแล้วเดินเข้าเกทเปลี่ยนเครื่องไปอัมสเตอร์ดัมแบบสวย ๆ แต่ไม่เป็นไรจัดไปตามใจสายการบินแล้วกัน หลังจากที่เดินทางถึงจุดหมายปลายทางแล้ว อาทิตย์ต่อมาก้ได้กลับมาสัมผัสบรรยากาศของมหานครแห่งนี้อีกครั้ง ตามที่แอดได้รีวิวเรื่องการเดินทางไปแล้วนั้น วันนี้อยากพูดถึงคาแรกเตอร์ของเมืองนี้บ้าง
ปารีส เป็นสาวเปรี้ยวนางนึงคะ นางมีหลากหลายรสชาติ ทั้งหรูหรา มีสไตล์ และสตรีทไปในคราวเดียวกัน เราจะเห็นแฟชั่นที่สะกดจิตได้จากเมืองนี้ ยิ่งไปเดินแถว ๆ Champs- Élysées แล้วละก็จะสะพรึงกับแบรนด์เนมทั้งซ้ายและขวา แต่อย่างแอดเอาแฟชั่นแนวสตรีทพอไปวัดไปวาก่อนละกัน แอดกับเพื่อนเดินไปเรื่อย ๆ ในดงแฟชั่นและต้องหยุดกึ๊ก เพราะเห็น super car คันงามหลายคันจอดอยู่หน้าตึกของแบรนด์เนมทั้งหลาย ตอนแรกเข้าใจว่าเซเลปมาช๊อปแน่นอน ด้วยความที่อยากรู้และอดใจไม่ไหวจึงต้องเข้าไปถามหนุ่ม ๆ ที่ดูแลรถเหล่านั้น
พระเจ้า!!!! มันคือรถเช่า สนนราคาที่ 90 ยูโรขึ้นไป พร้อมติดป้าย Drive Your Dream มันช่างล่อตาล่อใจนักเที่ยวที่อยากเช่ารถหรู เท่ คันนี้ไปดริปรอบ ๆ หอไอเฟล หรือจะขับกินลมชมเมืองริมแม่น้ำเซนเสียใจ 90 ยูโร ถ้าตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 3500 กว่าบาท แต่นี่เป้นราคาเริ่มต้น และถ้าขับชน เฉี่ยวไม่รู้ต้องจ่ายเท่าไหร่ เพราะเท่าที่สัมผัสการจราจรเมืองนี้มามันแซบซ่าส์มากฮะ ปาดหน้า ปาดหลัง ลดกระจกลงมาด่ากัน ถึงมีทางม้าลายถ้าโชคร้ายเดินเข้าไปอาจโดนรถชน รถไม่ได้หยุดให้คุณทุกคันนะฮะ ถึงแม้เมืองนี้จะมีไฟจราจรมากมาย แต่รถนี่จ่อจะทิ่มตูดคนเดินถนน โดยรวมแล้วสนุกฮะ แต่ระวังหลัง ระวังกระเป๋ากันนิด เพราะเราไม่รู้ว่ามิจฉาชีพจะมาตอนไหน สรุปได้คือมาตอนเผลอ 555 ตอนที่เราอยุ่ Musée du Louvre มีคนโดนฉกกระเป๋าด้วยแหละ วิ่งหน้าตั้งมาบอกตำรวจ แต่ตำรวจคงชินแล้ว ประสานงานเงิ่นง่าน ช้าเชือง ต้องระวังตัวกันเองนะครับ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน